เมื่อเวลา 09.30  น.  วันนี้ (  30 ตุลาคม 2562)  พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข  รอง ผบ.ตร. (มค)  เดินทางมายังโรงแรมดิวาลักซ์  รีสอร์ท  แอนด์สปา  อ.บางเสาธง  จ.สมุทรปราการ  เนื่องในโอกาสตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติราชการกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว  โดยมี  พล.ต.ท.เชษฐา  โกมลวรรธนะ  ผบช.ทท.  พล.ต.ต.คัชชา  ธาตุศาสตร์  และ  พ.ต.ต.อังกูร  คล้ายคลึง  รอง ผบช.ทท.  ให้การต้อนรับ  

       ในการนี้  พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข  รอง ผบ.ตร. (มค)  ได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ตำรวจท่องเที่ยว  รวม 125 นาย  ว่า  หน้าที่หลักของการเป็นตำรวจคือรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยให้สังคม  ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยว  มีหน้าที่เพิ่มเติม  คือ  ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ  ประการแรกที่สำคัญ  นักท่องเที่ยวต้องได้รับความปลอดภัย  ประการที่ 2  นักท่องเที่ยวไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ  ประการที่ 3  นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ  ประการที่ 4  กระจายรายได้ะูรกิจการท่องเที่ยว  และประการสุดท้าย  รักษาสภาพแวดล้อม

        ต่อมา พล.ต.ท.เชษฐา  โกมลวรรธนะ  ผบช.ทท.  ได้ทำการแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม  ที่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวก่อนการประชุมสุดยอดอาเซี่ยน  ระหว่างวันที่ 24-30 ตุลาคม  2562  สามารถจับกุมได้ 723 คดี  ผู้ต้องหา 766 คน  โดยมีการจับกุมคดีที่สำคัญและน่าสนใจ  ประกอบด้วยจับกุมชาวต่างชาติลักลอบเปิดเวปพนันออนไลน์  สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1  สืบทราบว่ามีชาวต่างชาติมั่วสุมในห้องพัก  วันที่ 25 ตุลาคม  ที่ผ่านมา  จึงทำการขออนุมัติหมายค้นต่อศาล  ทำการตรวจค้นห้องพักคอนโดแห่งหนึ่งย่านเอกมัย  และทองหล่อ  รวม 4 ห้อง  พบชาวเกาหลีใต้ 13 ราย  ลักลอบเปิดเวปพนันชื่อ ROYAL CLUB  มีการเปิดให้ทายผลกีหฬา  ไพ่บาคาร่า  และเกมส์ต่าง ๆ   โดยผู้ต้องหาทั้ง 13 คน  มีหน้าที่รับคำสั่งจากหัวหน้าที่ประเทศเกาหลีใต้  ทำหน้าที่ดูแลลูกค้า  ประทำความผิดมานาน 2-3 เดือน  มีเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 30 ล้านบาท  ต่อเดือน  จึงทำการแจ้งข้อหา  ฐ่นความผิด  ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันทายผลกีฬาต่างประเทศ (การพนันออนไลน์)  พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต  จับชายไทยหลอกโอนเงินเช่าบ้านพักพูลวิลล่า  โดยจับกุมนายอภิสิทธิ์  ยงกุล  หรือพรภวิษย์  แซ่โล้ว  หรือเบส  อายุ 27 ปี  มีพฤติกรรมติดต่อขอเป็นนายหน้าปล่อยเข้าบ้านพักกับเจ้าของบ้าน  โดยคิดค่าตอบแทนเป็นส่วนแบ่ง 15 เปอร์เซนต์  จากค่าเช่าที่พัก  แล้วนำบ้านพักดังกล่าวประกาศให้เช่าตามเวปไซต์ชื่อดัง  เมื่อมีผู้ติดต่อเข้ามาผู้ต้องหาจะทำทีเสนอบเานพักหลังอื่นที่ราคาถูกกว่า  แต่ถ้าผู้เสียหายไม่สนใจก็จะจะให้เช่าบ้านตามที่ผู้เสียหายเลือกไว้  แต่เมื่อถึงเวลาส่งมอบบ้านคืน  ผู้ต้องหาจะอ้างว่าผู้เข้าพักทำบ้านเสียหาย  เช่นสูบบุหรี่  ทอ้งก้นบุหรี่  ชุดเครื่องนอนสกปรก  แล้วแสร้งไม่คืนเงินมัดจำแก่ผู้เสียหาย  เงินมัดจำแต่ละครั้งราว 4500 บาท  รวมมูลค่าความเสียหายราว 3 แสนบาท  มีผู้เสียหายมากกว่า 30 ราย  ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน  และมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์  นำเข้ามูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์  นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับค้างเก่าอีก 3 หมาย  ฐานความผิดร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน  ชิงทรัพย์  ทำร้ายร่างกาย  และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน  จับกุมชาวเยอรมันลักทรัพย์  สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายชาวเกาหลีทำกระเป๋าเงินหาย  ภายในมีทรัพย์สินเงินสด 7แสนวอน  ที่ห้างสรรพสินค้าเซนทรัลมารีน่า ต.หนองปรือ  อ.บางละมุง  จ.ชลบุรี  ต่อมาพบว่า MR.TOGNETTO GINO สัญชาติเยอรมัน  เป็นผู้เก็บกระเป๋าเงินและลักเอาเงินในกระเป๋าไป เจ้าหน้าที่จึงติดตามตัว  ผู้ต้องหามารับทราบความผิดดำเนินคดี 

          จับกุมชาวต่างชาติลักลอบเปิดบริษัททัวร์  สืบเนื่องจากวันที่ 24 ตุลาคม  ที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกับกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 เข้าตรวจสอบ บ.พริวิเลจ คาร์โก้  แอนด์ เทรดด้ิง จำกัด  ตั้งอยู่ที่ 19/31 ซอยสุขุมวิท13แสงจันทร์  คลองเตยเหนือ  เขตวัฒนา  กทม.  พบว่าลักลอบเปิดบริษัททัวร์โดยไม่ได้รับอนุญาต  จึงทำการจับกุมนางสาวศดานันท์  เสี่ยงบุญ  กรรมการบริษัท  และ MR.JANNATUL FERDOUSH ชาวบังคลาเทศ  กรรมการบริษัท  ดำเนินคดีฐานประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน  และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมลักลอบจำหน่ายกัญชาในพื้นที่ป่าตอง  สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 สืบทราบว่านายชาย  กาตาวาล  ลักลอบจำหน่ายกัญชาแห้งอัดแท่งให้นักท่องเที่ยวในพื้นที่หาดป่าตอง  ในราคาขีดละ 2500 บาท  จึงเข้าตรวจสอบพบกัญชาแห้งอัดแท่ง 0.5 กก.  จึงทำการจับกุม  พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย   จับกุมชาวอิตตาลี่ อยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่ากำหนด  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3  สืบสวนทราบว่านายเฟอร์แฮ็ท  ฟลิสซี่  สัญชาติอิตาลี่ เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2554 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว  และถูกดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ตนทำงานอยู่  มูลค่า 2 ล้านบาท  ระหว่างพิจารณาคดีไม่ไปศาล  และไม่ไปทำการต่อวีซ่า  กระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีอยู่บริเวณเกาะสมุย  จึงเข้าจับกุม  

          พล.ต.ท.เชษฐา  โกมลวรรธนะ  ผบช.ทท.  กล่าวว่า  ได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เนื่องจากในวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2562 จะมีการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน  ครั้งที่ 35  และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ณ ประเทศไทย  ซึ่งในห้วงระยะเวลาดังกล่าวจะมีผู้นำประเทศสมาชิก  คณะผู้ติดตาม  รวมถึงสื่อมวลชนจากต่างประเทศ  เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก  ประกอบกับเป็นระยะเวลาเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นสำหรับการท่องเที่ยวปลายปี  เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว  ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย  และสร้างภาพลักษณ์การเป็นเจ้าบ้านที่ดี  รวมถึงการสืบสวนปราบปรามจับกุมเหล่ามิจฉาชีพที่แฝงตัวมาในคราบนักท่องเที่ยว  เข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย

บรรยงค์   จันทร์รอด   รายงานจาก  ศูนย์ข่าวภาคตะวันออก(สวนนงนุชพัทยา)